ราชวงศ์โจว
(1046-256 ปีก่อนคริสต์ศักราช)

ราชวงศ์โจว หรือ ราชวงศ์จิว เป็นราชวงศ์ที่ 3 ในประวัติศาสตร์จีน ปกครองอารยธรรมจีนประมาณ 1123 ปีก่อนคริสต์ศักราช - 256 ปีก่อนคริสต์ศักราช นับว่าเป็นราชวงศ์ที่ปกครองยาวนานที่สุด ด้วยเวลาที่ยาวนานกว่า 867 ปี ทั้งนี้ยังเป็นราชวงศ์ที่มีเรื่องราวของการสู้รบระหว่างแว่นแคว้นต่างๆ เพื่อชิงความเป็นใหญ่จนทำให้บ้านเมืองแตกแยก รวมทั้งยังเป็นยุคแห่งการกำเนิดของเหล่านักปรัชญาเมธีหลายท่าน อาทิ ขงจื๊อ, เล่าจื๊อ, ซุนวู เป็นต้น
กำเนิดราชวงศ์โจว
โจวอู่หวัง ได้โค่นราชวงศ์ซางลงแล้ว ได้ตั้งราชวงศ์โจวขึ้นแทน ได้เริ่มการปกครองด้วยระบบศักดินา คือแยกแผ่นดินออกเป็นแคว้นต่าง ๆ แล้วส่งเชื้อพระวงศ์แซ่ "จี" ของพระองค์ให้เป็น"เจ้าผู้ครองนครรัฐ" ไปปกครอง โดยพระองค์เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด ในยุคของราชวงศ์นี้สร้างความเจริญให้แก่บ้านเมืองมาก ทั้งด้านการเมือง การปกครอง ศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ แต่มีช่วงเวลา ที่เข้มแข็งจริง ๆ คือราว ๆ 350 ปีก่อนคริสต์ศักราช ที่เรียกว่า ราชวงศ์โจวตะวันตก หรือ ซีโจว (Western Zhou) ที่มีเมืองหลวง คือ เฮ่าจิง
สมัยของโจวอิวหวาง กษัตริย์องค์ที่ 12 ซึ่งหลงใหลมเหสีมาก มเหสีมีนามว่า เปาสี กล่าวกันว่านางเป็นคนสวยมาก แต่เป็นคนยิ้มไม่เป็น ทำให้โจวอิวหวางกลุ้มใจมาก ถึงกับตั้งรางวัลไว้พันตำลึง สำหรับผู้ที่ออกอุบายให้นางยิ้มได้ วันหนึ่ง คิดอุบายได้ด้วยการจุดพลุให้อ๋องต่าง ๆ เข้าใจว่า ข้าศึกบุกเมืองหลวงแล้ว เมื่อยกทัพมาถึงกลับไม่มีอะไร ทำให้เปาสียิ้มหัวเราะออกมาได้ แต่อ๋องต่าง ๆ โกรธมาก แล้วในที่สุด ก็มีข้าศึกยกมาตีเมืองหลวงจริง ๆ โจวอิวหวางได้จุดพลุขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีอ๋องคนไหนเชื่อ เลยไม่มีใครยกทัพมาช่วย ข้าศึกจึงตีเมืองได้ โจวอิวหวางถูกฆ่าตาย นางเปาสีถูกจับตัวไป ยิ้มของนางต่อมาถูกเรียกว่า "ยิ้มพันตำลึงทอง" ซึ่งเป็นยิ้มที่นำความวิบัติ มาสู่ราชวงศ์โจวโดยแท้ ต่อมา พวกอ๋องต่าง ๆ ได้ยกทัพมาช่วยตีข้าศึก แล้วตั้งโจวผิงหวาง โอรสของโจวอิวหวาง เป็นกษัตริย์ต่อไป ราชวงศ์โจวจึงต้องย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ลกเอี๋ยง (ลั่วหยาง ในปัจจุบัน) ซึ่งอยู่ทางตะวันออก เรียกว่า ราชวงศ์โจวตะวันออก หรือ ตงโจว (Eastern Zhou) หลังจากนั้น ราชวงศ์โจวก็บัญชาอ๋องต่าง ๆ ไม่ได้อีกต่อไป เนื่องจากอ๋องต่าง ๆ ต่างแข็งเมืองและรบกันเองระหว่างแว่นแคว้นเพื่อต้องการเป็นใหญ่
ราชวงศ์โจวแบ่งออกเป็น 2 ยุค ได้แก่
- ยุคราชวงศ์โจวตะวันตก ปกครองราว 1046 – 771 ปีก่อนคริสต์ศักราช สถาปนาขึ้นโดยพระเจ้าโจวอู่หวังหรือ จีฟา ภายหลังโค้นล้มราชวงศ์ซางลงได้สำเร็จ โดยมีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่ซีอาน มีกษัตริย์ปกครองทั้งสิ้น 12 พระองค์
-
ราชวงศ์โจวตะวันออก
ปกครองราว 771-256 ปีก่อนคริสต์ศักราช ปกครองสืบต่อจากราชวงศ์โจวตะวันตกโดยพระเจ้าโจวผิงหวัง ได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ลั่วหยาง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองซีอาน ในสมัยนี้เกิดการแย่งชิงอำนาจกันของเหล่าอ๋องและการแข็งเมืองของเหล่าอ๋องทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพในการปกครองเกิดขึ้นจนนำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์ โดยในราชวงศ์โจวตะวันออกมีการแบ่งออกเป็น 2 ยุค โดยยุคแรกเรียกว่า ยุคชุนชิว และยุคสุดท้ายเรียกว่า ยุคจ้านกว๋อ จนราชวงศ์โจวล่มสลาย
- ยุคชุนชิว ยุคนี้เป็นยุคที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายในอาณาจักร แว้นแคว้นต่าง ๆ เกิดความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันจนเกิดสงครามระหว่างแคว้นต่างๆ ผู้คนเดือดร้อนทุกข์ยาก จนก่อเกิดนักปราชญ์นักปรัชญาขึ้นและมีโอกาส เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านปรัชญา ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม รวมทั้งการปกครอง ผู้คนในเวลานั้นต่างก็ต้องการที่พึ่ง ผู้ปกครองก็ต้องการแม่ทัพผู้ปราชญ์เปรื่องเรื่องยุทธวิธีการวางแผน วางกำลังการรบที่เหนือกว่าคู่แข่ง จึงทำให้มีผู้คนมากมายรับฟังนักปราชญ์ และเกิดนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงขึ้นมากมาก อย่างเช่น ขงจื้อ เล่าจื่อ หรือซุนวูผู้เขียนตำราพิชัยสงคราม
- ยุคจ้านกว๋อ เป็นยุคแห่งการทำสงครามแย่งชิงความเป็นใหญ่ของแว่นแคว้นต่างๆ อันได้แก่ แคว้นฉู่ แคว้นเจ้า แคว้นเอี้ยน แคว้นฉี แคว้นฉิน แคว้นหาน และแคว้นวุ่ย จนในที่สุดฉินหวังเจิ้งหรือฉินสื่อหวงหรือจิ๋นซีฮ่องเต้ ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉินก็เก็บกวาดแค้วนต่างๆ ทั้ง 6 แคว้นรวบรวมเป็นหนึ่งเดียวจนเป็นปึกแผ่นและสถาปนาราชวงศ์ฉินขึ้นมาในที่สุด
การล่มสลายของราชวงศ์โจว
ความแตกแยกและความอ่อนแอของราชวงศ์โจวในยุคโจวตะวันออกนั้น ทำให้แว่นแคว้นต่างๆ ทำสงครามกันเพื่อชิงความเป็น ใหญ่ มีแต่ความวุ่นวายทั้งแผ่นดิน แคว้นต่างๆ นับร้อยทำสงครามกัน จนเหลือเพียงไม่กี่แคว้นใหญ่ๆ เท่านั้น กษัตริย์ราชวงศ์โจวไม่สามารถปราบปรามแคว้นต่างๆ ได้ ต่อมาแคว้นฉิน คนไทยเรียกจิ๋น มีการพัฒนาจนเข้มแข็งอย่างมากนำกำลังทหารโค่นราชวงศ์โจวและปราบปราบรัฐต่างๆลงได้สำเร็จ แล้วจึงได้สถาปนาราชวงศ์ฉินขึ้น บังคับให้ชาวจีนทั้งแผ่นดินเรียกตัวเองว่าชาวฉิน เป็นการตั้งชื่อประเทศจีน ที่มาจากฉินหรือจิ๋นเป็นครั้งแรก