ราชวงศ์ฉิน
(221-206 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
ราชวงศ์ฉินหรือจิ๋น เป็นราชวงศ์ที่ปกครองแผ่นดินจีนระหว่าง พ.ศ. 323–พ.ศ. 338 (221 ปีก่อนค.ศ. – 206 ปีก่อนค.ศ.) ก่อนหน้านี้จีนได้แตกแยกออกเป็น 7 รัฐและทำสงครามกันอยู่เนือง ๆ ต่อมากษัตริย์แห่งรัฐฉินได้ทำสงครามรวบรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียว และสถาปนาตนเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฉินโดยใช้พระนามว่า ฉินสื่อหวงตี้ คนไทยจึงออกเสียงเพี้ยนเป็น จิ๋นซีฮ่องเต้ หรือ ฉินซีฮ่องเต้ จิ๋นซีฮ่องเต้ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 322–พ.ศ. 333 ในช่วงนี้แผ่นดินจีนมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคงมาก แต่เมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้เสด็จสวรรคต ราชวงศ์ฉินก็สั่นคลอนอย่างหนัก และล่มสลายลงใน พ.ศ. 337
รวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่ง
หลังจากที่ฉินอ๋องอิ๋งเจิ้ง ผู้นำรัฐฉิน สามารถรวบรวมรัฐทั้ง 7 เข้าด้วยกันได้สำเร็จ ฉินอ๋อง จึงได้ก่อตั้งราชวงศ์ฉิน ปกครองแผ่นดิน และตั้งเมืองหลวงที่เมืองเสียนหยาง
ฉินอ๋อง ได้เรียกตำแหน่งของตนเองใหม่ เพราะฉินอ๋องได้คิดว่า ตำแหน่งอ๋องนั้น ดูไม่ยิ่งใหญ่พอที่จะ ใช้เรียกผู้ปกครองแผ่นดินทั้งหมด จึงได้สถาปนาตนเอง เป็นฉินสื่อหวงตี้ หรือ จิ๋นซีฮ่องเต้ โดยคำว่า "หวง" หรือ "หวัง" แปลว่า เจ้า และคำว่า "ตี้" หรือ "เต้" แปลว่า แผ่นดิน จึงมีความหมายรวมว่า "เจ้าแห่งแผ่นดิน" อันเป็นจุดกำเนิดของจักรพรรดิคนแรก ของประวัติศาสตร์จีน นั่นเอง
ปฏิรูปการปกครอง รวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง
การปฏิรูปซางหยางขับดันให้การพัฒนาของฉิน 1 ใน 7 รัฐใหญ่แห่งยุคจ้านกั๋วหรือยุคสงคราม พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว พลังอันแข็งแกร่งทางทหารและความรุ่งโรจน์ทางเศรษฐกิจ ทำให้ฉินพิชิตรัฐใหญ่ทั้งหกได้อย่างง่ายดาย ระหว่าง 26 ปี นับจากช่วงที่ฉินหวางเจิ้งก้าวสู่บัลลังก์กษัตริย์ กระทั่งปีที่เขาสถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีนที่เรียกกันว่าฉินสื่อหวงตี้หรือในภาษาแต้จิ๋วที่คุ้นหูคนไทยคือ จิ๋นซีฮ่องเต้ พระองค์พิชิตชัยชนะในการรัมโรมศึกกับบรรดารัฐใหญ่ร่วมยุคสมัยทั้งหมดได้แก่ หาน จ้าว เว้ย ฉู่ เยียน และฉี ในที่สุด ฉินก็บรรลุการผนึกรวมรัฐต่างๆเป็นแผ่นดินใหญ่ภายใต้อำนาจเบ็ดเสร็จและการปกครองแบบรวบอำนาจที่ศูนย์กลาง
ฉินสื่อหวงตี้ได้กำหนดมาตรการหลายอย่างเพื่อสร้างเสริมความแข็งแกร่งแก่อำนาจส่วนกลาง และรวบรวมเอกภาพแห่งชาติ อำนาจสูงสุดอยู่ในมือของจักรพรรดิ ขณะที่เหล่าขุนนางใหญ่มีสิทธิเพียงถกเถียงและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกิจการของรัฐ โดยไม่มีสิทธิในการตัดสินใจใดๆ สำหรับรัฐบาลกลางประกอบด้วย 3 ขุนนางใหญ่คือ เฉิงเซี่ยง(อัครเสนาบดี) เป็นผู้ช่วยมีอำนาจรองจากจักรพรรดิช่วยบริหารบ้านเมือง ยวี่สื่อต้าฟู(ที่ปรึกษาองค์จักรพรรดิ) คอยกำกับดูแลข้าราชบริพารทุกระดับชั้น และไท่เว่ย(ผู้บัญชาการทหารสูงสุด) รับผิดชอบกิจการทหาร ดินแดนทั้งหมดถูกแบ่งเป็นเขตการปกครอง 36 แห่ง ซึ่งแบ่งย่อยออกไปเป็นอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน รัฐอนุญาตให้ประชาชนมีสิทธิเป็นเจ้าของที่ดิน ทั้งมีระบบทะเบียนสำมะโนประชากรที่เป็นเอกภาพและเหนียวแน่นบังคับใช้ทั่วประเทศ อีกทั้งมีการสร้างมาตรฐานระบบภาษาเขียน ระบบเงินตรา มาตราชั่ง ตวง วัด ซึ่งเป็นแกนที่คอยรวบรวมเอกภาพของแผ่นดินจีนตลอดประวัติศาสตร์กว่า 2,000 ปี ตลอดจนมีการสร้างถนนหนทาง ลำคลองขนาดมหึมา
นอกจากนี้ กลุ่มคนร่ำรวยถูกย้ายให้มาอาศัยอยู่ในเมืองหลวงคือเสียนหยาง เพื่อขยายความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของใจกลางประเทศ ส่วนประชาชนทั่วไปก็ถูกส่งไปยังเขตกันดารไกลปืนเที่ยงเพื่อทำไร่ทำนา ส่วนพวกนักโทษอาชญากรก็ถูกอัปเปหิไปต่อสู้ป้องกันประเทศตามเขตแนวหน้าชายแดน สื่อหวงตี้นั่นเอง ที่ทรงดำริเชื่อมกำแพงของแว่นแคว้นต่างๆในยุคจ้านกั๋ว เป็นกำแพงเมืองมหัศจรรย์ที่ยาวที่สุดในโลก เพื่อสกัดกั้นชนเผ่าซงหนู
สื่อหวงตี้ใช้อำนาจเหล็กอย่างหฤโหด อาทิ การสังหารนักคิดนักปราชญ์จำนวนมากโดยการฝังทั้งเป็น อาทิ กลุ่มลัทธิขงจื่อกว่า 400 คน เผาหนังสือคัมภีร์ที่แตกแถว เกณฑ์แรงงานทาสไปสร้างกำแพงเมือง พระราชวัง สวน และสุสานกระทั่งล้มตายกันไปเป็นเบือนับล้าน ขณะที่รีดนาทาเร้นส่วยภาษีจากประชาชน สื่อหวงตี้ก็ใช้ชีวิตสุดหรูฟู่ฟ่า ใช้เงินราวเศษกระดาษในการท่องเที่ยวสำราญไปทั่วประเทศ
การบังคับใช้แรงงานทาสอย่างทารุณอย่างไม่จบสิ้น ภาระภาษีอันหนักอึ้งของประชาชน และการลงทัณฑ์อาชญากรอย่างโหดเหี้ยม กลายเป็นแรงกระตุ้นมรสุมแห่งความเกลียดชังและความไม่พอใจที่เริ่มพุ่งพวยและระเบิดในปลายรัชสมัยของสื่อหวงตี้
ปัจจุบัน ราชวงศ์ฉินได้รับการยอมรับจากนักประวัติศาสตร์ให้เป็นราชวงศ์แรกของจีน ด้วยมีหลักฐานทางโบรารคดีและประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการมากที่สุดและแผ่นดินก็ยงได้ถูกรวมเป็นหนึ่งครั้งแรกและยกให้ จิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีนด้วย ด้วยคำว่า "China" ในภาษาอังกฤษหรือคำว่า "จีน" ในภาษาไทยก็ล้วนเพี้ยนมาจากคำว่าฉินนี้ทั้งสิ้น ราชวงศ์ฉิน เป็นราชวงศ์ที่สั้น ๆมีอายุเพียง 15 ปี เท่านั้น แต่ได้วางรากฐานที่สำคัญต่อมาแก่คนรุ่นหลัง และได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลกมากมาย เช่น กำแพงเมืองจีน, สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นต้น

กำแพงเมืองจีน หนึ่งในผลงานมหัศจรรย์ของจิ๋นซีฮ่องเต้
การล่มสลายของราชวงศ์ฉิน
ฉินชีฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 210 ก่อนคริสตกาล พระราชโอรส หูไฮ่ ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าฉินที่ 2 เนื่องจากไร้พระปรีชา ไม่เหมือนพระบิดา และมีความโหดร้าย การเกณท์แรงอย่างอย่างหนัก ในการสร้างพระราชวังอาฝางกง สุสานจักพรรดิ และกำแพงเมืองจีน จึงก่อให้เกิดกบฏชาวนานำโดย เฉินเซิ่ง และ อู๋กว๋าง การก่อกบฏได้รุกรามไปทั่วราชอาณาจักร อย่างรวดเร็ว โดยมี ทายาท และ ขุนนางเก่า ของนครรัฐทั้ง 6 ที่โดน ราชวงศ์ฉินล้มล้างไป เข้าร่วมก่อการด้วย
หลังจาก เฉินเซิ่ง และ อู๋กว๋าง ถูกทางการปรามปรามไป แต่ไฟกบฏได้จุดติด และรุกรามไปแล้ว ผู้นำกบฏที่โดดเด่น 2 คน คือ เซี่ยงอวี่ ซึ่งเป็น ทายาทขุนศึกแห่งแคว้นฉู่ และ หลิวปัง สามัญชน จากอำเภอเพ่ย ได้ทำศึกต่อไป หลิวปังสามารถนำทัพเข้าสู่นครหลวงเสียนหยาง ได้ก่อน และ ฉินอ๋องจื่อยิง ยอมจำนวน เปิดประตูเมือง ราชวงศ์ฉินถูกโค่นลง หลังจากปกครองได้เพียง 15 ปี

สุสานจักพรรดิฉิน