ราชวงศ์สุย
(ค.ศ. 581-618)

อาณาเขตราชวงศ์สุย
ราชวงศ์สุย (พ.ศ. ๑๑๒๔-๑๑๖๐) (ค.ศ. 581 – 618) “หลังจากได้ผ่านการต่อสู้แย่งชิงแผ่นดินกันมากว่า 270 ปี ในที่สุดหยางเจียนได้สถาปนาราชวงศ์สุย รวมแผ่นดินเข้าด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ความสงบสุขมีได้ไม่นาน เมื่อจักรพรรดิสุยหยางตี้ ผู้สืบราชบัลลังก์ต่อมาเต็มไปด้วยความลุ่มหลงมัวเมาในอำนาจ พร่าผลาญเงินทองในท้องพระคลังจนหมดสิ้น ใช้ทรัพยากรและแรงงานฝีมืออย่างสิ้นเปลือง ทำลายรากฐานที่สั่งสมมาจากคนรุ่นก่อน จุดไฟสงครามแย่งชิงอำนาจขึ้นอีกครั้ง”
เงื่อนไขการรวมแผ่นดิน
อันเป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งในการรวมแผ่นดินของราชวงศ์สุย ในสมัยจิ้นตะวันออกและราชวงศ์เหนือใต้ ราษฎรจากภาคเหนืออพยพลงสู่ใต้มากขึ้น เพิ่มสัดส่วนแรงงาน และเทคนิควิทยาการในการผลิตเข้ามาด้วย ทำให้เศรษฐกิจแดนเจียงหนัน*(กังหนำ) พัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่เดิมการค้าระหว่างชนชาติทางภาคเหนือและใต้ยังถูกทางการควบคุมการไปมาหาสู่อย่างเข้มงวด แต่ในยุคราชวงศ์เหนือใต้การเติบโตทางเศรษฐกิจได้ทำลายข้อจำกัดนี้ไป ประกอบกับสภาพสงครามแย่งชิงได้ดำเนินมาเป็นเวลานาน จิตใจของทุกผู้คนต่างมุ่งหวังการรวมแผ่นดิน เพื่อให้เกิดสังคมที่สงบสุข
สุยรวมแผ่นดินเหนือใต้
เมื่อปี ค.ศ. 580 โจวเซวียนตี้สิ้นพระชนม์ลง มอบบัลลังก์ให้บุตรชายวัย 8 ขวบขึ้นเป็นโจวจิ้งตี้ โดยมีหยางเจียนเป็นมหาเสนาบดีช่วยให้การดูแล แต่แล้วในปี ค.ศ. 581 หยงเจียนปลดโจวจิ้งตี้ ตั้งตนเป็นจักรพรรดิ สุยเหวินตี้ (581 – 600) สถาปนาราชวงศ์สุย โดยมีราชธานีอยู่ที่เมืองต้าซิ่ง (ซีอานในปัจจุบัน) จากนั้นดำเนินนโยบายผูกมิตรกับชนเผ่าทูเจี๋ยว์ตะวันออก(เติร์ก) ทางเหนือ จากนั้นจัดกำลังบุกลงใต้ และเข้ายึดเมืองเจี้ยนคังเมืองหลวงของราชวงศ์เฉินได้ในปี ค.ศ. 589 ยุติสงครามแบ่งแยกดินแดนที่ดำเนินมากว่า 270 ปีได้ในที่สุดภายหลังการรวมแผ่นดินของราชวงศ์สุย สภาพสังคมโดยรวมได้รับการฟื้นฟูจากภาวะสงคราม มีการเติบโตด้านการผลิต เกิดความสงบสุขระยะหนึ่ง สุยเหวินตี้ ได้ดำเนินการปฏิรูปการปกครองครั้งใหญ่ โดยยุบรวมเขตปกครองในท้องถิ่น ลดขนาดองค์กรบริหาร รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ปี ค.ศ. 600 สุยเหวินตี้ ทรงปลดรัชทายาทหยางหย่ง แต่งตั้งราชโอรสองค์รองหยางกว่าง ขึ้นแทน หยางกว่างร่วมมือกับอวี้เหวินซู่และหยางซู่ วางแผนแย่งชิงบัลลังก์ ปี ค.ศ. 604 สุยเหวินตี้ สิ้นพระชนม์กระทันหัน หยางกว่างสืบราชบัลลังก์ต่อมา
แผ่นดินลุกเป็นไฟ
ปี 611 หยางกว่างเร่งระดมกำลังพลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อบุกเกาหลี สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่ลำบากยากแค้นอยู่แต่เดิม เป็นเหตุให้เกิดการลุกฮือขึ้นของกบฎชาวนา นำโดยหวังป๋อจากนั้นก็มีกบฏชาวนาจากท้องที่ต่างๆ พากันลุกฮือขึ้นไม่ขาดสาย ปี 613 ขณะที่สุยหยางตี้ยกทัพบุกเกาหลีครั้งที่ 2 หยางเสวียนกั่นที่เป็นบุตรหลานตระกูลใหญ่ซ่องสุมกำลังพลคิดล้มล้างราชวงศ์สุย โดยมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก เมื่อสุยหยางตี้ทราบข่าว ก็รีบถอยทัพกลับทันที การปราบปรามครั้งนี้มีผู้คนถูกสังหารเป็นจำนวนมาก กบฏชาวนาที่ลุกฮือขึ้นปะทะกับทหารสุย บ้างแตกพ่าย บ้างรวมกลุ่มกัน